การตรวจ HIV ด้วยน้ำยา Gen 4 ความก้าวหน้าทางการแพทย์แน่นอนว่ามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการตรวจคัดกรอง การวินิจฉัย การรักษา ตลอดจนการคิดค้นด้านเภสัชกรรม ส่งผลต่อทางเลือกด้านสุขภาพที่ดีของประชากรทั่วโลกมากกว่าเมื่อครั้งอดีต ซึ่งในบทความนี้เราจะมานำเสนอเกี่ยวเทคโนโลยีที่นับว่าเป็นความสำเร็จขั้นหนึ่งของวงการแพทย์ เพราะทำให้การตรวจคัดกรอง HIV โรคติดต่อที่ในอดีตได้คร่าชีวิตผู้ป่วยมากมายทั่วโลก จนในที่สุดได้มีการค้นพบแนวทางการตรวจคัดกรองที่เร็วและมีประสิทธิภาพหลายวิธีด้วยกัน แต่เราเลือกเจาะจงไปที่การตรวจ HIV ด้วยน้ำยา Gen 4 fourth Genneration ที่นับว่าเป็นการตรวจ HIV ที่ได้รับความนิยมจากสถานพยาบาลทั่วโลก ด้วยเหตุผลสำคัญคือสามารถตรวจพบได้รวดเร็วในระยะหลังผ่านความเสี่ยง 14 วัน โดยเป็นการตรวจ HIV ด้วยการหา Antibody ของเชื้อไวรัส HIV ในขณะเดียวกันยังสามารถตรวจพบ P24 Antigen ได้ด้วย จึงทำให้การตรวจ HIV ด้วย Gen 4 เป็นวิธีที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ
Table of Contents
การตรวจ HIV ด้วยน้ำยา Gen 4 มีข้อดีอย่างไร?
จากที่กล่าวมาข้างต้นว่า การตรวจ HIV ด้วยน้ำยา Gen 4 (Forth Generation) เป็นการตรวจหา Antibody ควบคู่ไปกับ Antigen ในร่างกายได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยลดระยะเวลาในการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็วใน 14 วัน ซึ่งจากปกติแล้วการตรวจหาค่าทั้งสองจะเป็นวิธีการแยกกันและผู้เข้ารับการตรวจจะต้องผ่านระยะความเสี่ยงอย่างน้อย 21-30 วัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการตรวจเอดส์ ด้วยน้ำยา Gen 4 มีความรวดเร็วกว่าอีกทั้งยังสามารถตรวจพบได้ทั้ง 2 ประเภท โดยหากผู้ตรวจมีการติดเชื้อ HIV ในร่างกายจริง ค่าการตรวจ Antigen จะแสดงผลชัดเจน ทั้งนี้ในผู้ตรวจบางรายอาจตรวจพบ Antibody แสดงร่วมด้วยได้เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับระบบภูมิคุ้มกันของแต่ละคนร่วมด้วย ทำให้การตรวจ HIV ด้วย Gen 4 ตอบโจทย์ทางการแพทย์และลดปัญหาการตรวจที่ซ้ำซ้อนได้เป็นอย่างดี
การตรวจ HIV ด้วยน้ำยา Gen 4 มีข้อควรระวังหรือไม่?
การตรวจ HIV ที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดควรคำนวณระยะเวลาให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นวิธีการตรวจประเภทอื่น ๆ รวมถึงการตรวจด้วย Gen 4 ก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากอาจส่งผลต่อผลการตรวจที่แสดงผลว่าไม่พบเชื้อ HIV ในร่างกาย (ผลลบปลอมในกรณีที่ตรวจเร็วเกินไป) นำไปสู่ความเข้าใจผิดคิดว่าตนเองไม่ติดเชื้อ HIV ตายใจใช้ชีวิตปกติที่ขาดการป้องกันที่เหมาะสม จนมีโอกาสสูงที่จะแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ในที่สุด ดังนั้นการเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการป้องกันความผิดพลาดนี้ ตลอดจนสร้างความมั่นใจก่อนเข้ารับการตรวจ HIV นั่นเอง
ปัจจุบันการตรวจ HIV ด้วย Gen 4 สามารถตรวจได้ที่ไหนบ้าง?
สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV และมีความต้องการตรวจ HIV เพื่อคัดกรองให้แน่ชัดด้วยน้ำยา Gen 4 สามารถพิจารณาเข้ารับการตรวจหรือใช้บริการตรวจ HIV ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน
การเข้าตรวจ HIV ภายในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน เป็นทางเลือกที่รองรับความต้องการผู้ที่สามารถเลือกใช้บริการได้ ซึ่งในโรงพยาบาลของรัฐจัดให้การตรวจ HIV เป็นหนึ่งในสิทธิ์พื้นฐานของประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยจะได้รับการตรวจ HIV ฟรี ปีละ 2 ครั้ง ทั้งนี้ผู้ตรวจควรสอบถามทางสถานพยาบาลต่าง ๆ ล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจว่ามีบริการตรวจ HIV แบบ Gen 4 หรือ แบบอื่น ๆ หรือไม่ ต้องจัดเตรียมเอกสารหรือเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนพิจารณาเข้ารับการตรวจ HIV
คลีนิคนิรนามและสภากาชาดไทย
เป็นที่ทราบกันดีว่า คลีนิคนิรนาม และ สภากาชาดไทย เปิดให้ บริการตรวจ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย การเลือกเข้ารับการตรวจ HIV ด้วย Gen 4 เป็นหนึ่งในวิธีการตรวจคัดกรองที่เลือกใช้และมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้กับเจ้าหน้าที่หรือสถานที่ตรวจได้ทราบ โดยทางคลีนิคนิรนามจะใช้เพียงชื่อแทนตัวด้วยรหัสประจำตัวผู้ตรวจเท่านั้น อีกทั้งยังรองรับการตรวจที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ตรวจเข้าถึงการตรวจได้อย่างสบายใจและสะดวกสบายมากที่สุด
คลินิกเฉพาะด้านที่ให้บริการ
การเข้ารับบริการตรวจ HIV ในคลินิกเฉพาะด้านนับว่าเป็นทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากมีความสะดวกสบายรวดเร็ว และสามารถนัดตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้โดยไม่ต้องรอคิวให้เสียเวลา ทั้งนี้หากคุณต้องการเข้าตรวจ HIV ด้วยน้ำยา Gen 4 อาจจะต้องสอบถามล่วงหน้าเพื่อสอบถามว่าทางคลินิกนั้่น ๆ รองรับการตรวจด้วยวิธีนี้หรือไม่ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับนโยบายในการให้บริการของแต่ละคลินิกด้วยนั่นเอง ค้นหาสถานบริการสำหรับตรวจเอชไอวีใกล้บ้าน คลิกที่นี่
สถานที่ตรวจเอชไอวี แยกตามจังหวัด
จังหวัด | สถานที่ตรวจ HIV |
---|---|
กรุงเทพฯ | เซฟ คลินิก |
คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง รามคำแหง | |
SWING THAILAND สาขาสีลม | |
คลินิกรักษ์เพื่อนโรงพยาบาลตากสิน | |
คลินิกรักษ์เพื่อนโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ | |
คลินิกรักษ์เพื่อนโรงพยาบาลสิรินธร | |
คลินิกรักษ์เพื่อนโรงพยาบาลลาดกระบัง | |
คลินิกรักษ์เพื่อนโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ | |
คลินิกรักษ์เพื่อนคณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช |
|
SWING สาขาสะพานควาย | |
บางกอกเรนโบว์ (สะพานควาย) | |
คลินิก บัดดี จุฬา | |
คลินิกแทนเจอรีน | |
พริบตาคลินิก | |
เชียงใหม่ | คลินิก ฮักษา กลางเวียง |
แคร์แมท เชียงใหม่ | |
คลินิกเทคนิคการแพทย์เอ็มพลัส เชียงใหม่ | |
ชลบุรี | คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง เมืองชลบุรี |
SWING สาขาพัทยา | |
อุบลราชธานี | คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง อุบลราชธานี |
ขอนแก่น | แอ๊คทีม ศูนย์บริการสุขภาพชุมชน |
อุดรธานี | ศูนย์บริการสุขภาพชุมชนมูลนิธิเอ็มเฟรนด์ อุดรธานี |
สงขลา | คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง หาดใหญ่ |
ชุดตรวจ HIV แบบ Gen 4 (ชุดตรวจด้วยตนเอง)
การตรวจ HIV ด้วยตัวเองขึ้นกำลังได้รับความสนใจจากผู้ที่มีความเสี่ยงทั่วโลก ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นวิธีการตรวจที่มีความเป็นส่วนตัวสูง สามารถตรวจ HIV ได้ด้วยตัวเองและทราบผลในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งยังสามารถหาซื้อได้ง่ายไม่ต้องเสียเวลาไปสถานพยาบาล ไม่ต้องให้ข้อมูลส่วนตัวต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งในปัจจุบันได้พัฒนาให้สามารถตรวจได้ด้วยน้ำยา Gen 4 ผ่านชุดตรวจที่ได้รับรองมาตรฐานเป็นที่เรียบร้อย แต่มีเฉพาะใช้ตามโรงพยาบาลเท่านั้น และ ไม่มีชุดตรวจด้วยตนเองที่ผ่านการรับรองจาก อย ดังนั้น แนะนำว่าผู้ตรวจควรพิจารณา ชุดตรวจ HIV ที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ และได้รับการรับรองจากสำนักงานอาหารและยาของไทย ที่สำคัญได้รับใบอนุญาตจำหน่ายอย่างถูกต้อง เนื่องจากความสะดวกในการสั่งซื้อที่ง่าย อาจตกเป็นเหยื่อของผู้จำหน่ายชุดตรวจ HIV ที่ไม่ได้มาตรฐาน จนอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดจากผลการตรวจได้
จากคุณสมบัติในการตรวจ HIV ด้วยน้ำยา Gen 4 ที่เร็วและได้ประสิทธิภาพ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าบางแห่งอาจมีค่าใช้จ่ายในการตรวจที่ค่อนข้างสูงกว่าการตรวจวิธีอื่น ๆ เล็กน้อย ดังนั้นแนะนำให้สอบถามรายละเอียดล่วงหน้าก่อนจะดีที่สุด นอกจากนี้อาจสอบถามข้อมูลจำเป็นอื่น ๆ ที่มีข้อสงสัยเพื่อประกอบการตัดสินใจได้อีกด้วย หากในกรณีที่ต้องการใช้ชุดตรวจ HIV ด้วยน้ำยา Gen 4 ด้วยตัวเอง เน้นย้ำว่าควรศึกษาหาข้อมูลตัวแทนผู้จัดจำหน่ายอย่างรอบคอบก่อนเสมอ เพื่อให้ได้ชุดตรวจที่ได้มาตรฐานและได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากที่สุด สิ่งสำคัญลำดับถัดมาเมื่อคุณทราบผลการตรวจ HIV แล้ว ควรรับมือให้เหมาะสมทั้งด้านการปฎิบัติตัวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ตลอดจนการเข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุด (ในกรณีที่ผลตรวจพบว่าติดเชื้อ HIV)